โรงงานฟอร์ดร่วมมือ สสส. ชูแนวคิด ‘Happy Work Place’ ยกระดับความเป็นผู้นำความปลอดภัย – ลดโรคในสถานประกอบการ
กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 23 พฤษภาคม 2566 – โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ร่วมมือกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ส่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานเข้าฝึกอบรมในโครงการพัฒนาศักยภาพและบทบาทเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานด้านสุขภาวะองค์กร เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องเพื่อขับเคลื่อนมาตรการเชิงป้องกันสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะทั่วประเทศ โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ 2 ปี มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานเข้าร่วม 1,848 คน จากสถานประกอบกิจการ 1,064 แห่ง ซึ่งโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง เป็นโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกที่เข้าร่วมโครงการนี้ และได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการต้นแบบด้านสุขภาวะองค์กร จากนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญและส่งเสริมกิจกรรมด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เพื่อยกระดับความเป็นผู้นำความปลอดภัย และลดโรคในสถานประกอบการ
ฟอร์ดไม่ได้วัดสำเร็จขององค์กรจากตัวเลขผลประกอบการเท่านั้น พนักงานที่มีสุขภาพดีและมีความสุขเป็นเรื่องที่บริษัทให้ความสำคัญและส่งเสริมมาโดยตลอด ฟอร์ดได้นำเอาแนวคิด Happy Workplace มาปรับใช้เป็นแนวทางในการสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้กับพนักงาน โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานสำหรับพนักงานออฟฟิศทั่วไป ให้สามารถเลือกทำงานนอกสถานที่ได้ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องทำที่สำนักงานหรือต้องทำงานที่บ้านเท่านั้น และสำหรับพนักงานที่ทำงานในฝ่ายการผลิตที่จำเป็นต้องมาทำงานที่โรงงาน บริษัทได้กำหนดตารางกิจกรรมตลอดทั้งปีเพื่อให้พนักงานได้เข้าร่วม เช่น การแข่งขันกีฬาระหว่างแผนกซึ่งจัดขึ้นทุกเดือนในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน และกิจกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพด้านจิตใจของพนักงาน เช่น การฝึกสมาธิ และการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต
นายนพวัตติ์ นิธิดำรงรัตน์ ผู้จัดการแผนกความปลอดภัย โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง กล่าวว่า “เราได้นำสถิติผลการตรวจสุขภาพของพนักงานทั้งโรงงานมาขยายผล พร้อมกับนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลปัญหาสุขภาพพนักงานมาพัฒนากิจกรรมให้เหมาะสม ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากพนักงานเป็นอย่างมาก คือ การแข่งขันลดน้ำหนัก โดยเราได้จัดให้มีนักโภชนาการ และฟิตเนส เทรนเนอร์มาให้ความรู้และคำแนะนำกับพนักงานที่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย”