ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ สปอร์ตพรีเมียมแฟลกชิปซีดาน เปิดจองสิทธิ์เป็นเจ้าของ เตรียมเปิดตัว 17 ต.ค. 66
(กรุงเทพฯ – 29 กันยายน 2566) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมเปิดตัวพรีเมียมแฟลกชิปซีดาน “ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่” ภายใต้ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 11 ที่ได้รับการยกระดับเพื่อส่งมอบคุณค่าใหม่อีกขั้น สู่การเป็นยนตรกรรมที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ ครั้งแรกกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทุกรุ่นย่อย ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลังด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มอบพลังการขับเคลื่อนที่ไร้กังวลในทุกเส้นทาง โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด (Intelligent Multi-mode drive) มีอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ผสานความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ความประณีต และฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัว ครั้งแรกในโลกของ แอคคอร์ด กับรุ่น e:HEV RS ที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น ในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน เสริมความพรีเมียมด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) นอกจากนี้ยังมาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน* ที่ฮอนด้าได้ติดตั้งเป็นครั้งแรก* ใน แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ อาทิ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้อย่างง่ายดาย Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว สวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ใหม่ สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive Cruise Control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EV Switch ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) อีกทั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่น ๆ* อาทิ ถุงลม 8 ตำแหน่งในทุกรุ่นย่อย ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เป็นต้น เสริมความมั่นใจในระบบ e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 ตุลาคม 2566
พิเศษ สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ก่อนใคร สามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – วันที่ 16 ตุลาคม 2566 เวลา 22.00 น.** โดยสามารถจองสิทธิ์ผ่านที่ปรึกษาการขายฮอนด้า หรือที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท** เมื่อจองและรับรถภายในระยะเวลาที่บริษัทฯ กำหนด**
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการไม่เกิน 1,800,000 บาท***
- รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณการไม่เกิน 1,670,000 บาท***
- รุ่น e:HEV E ราคาประมาณการไม่เกิน 1,530,000 บาท***
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์
(เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่
ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นในทุกมิติ ผสานความหรูหราสง่างามและความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว
- กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตใหม่ โดดเด่นด้วยแพตเทิร์นที่มีมิติ สะกดทุกสายตา
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- เสาอากาศครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีเงิน (รุ่น e:HEV E) และขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ (รุ่น e:HEV EL)
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมส่งมอบประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ
ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบาย สะท้อนภาพลักษณ์ที่มีระดับ
- ใหม่ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ใช้รถสัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 แบบ
- ใหม่ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งใน ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เป็นครั้งแรก (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ใหม่ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง
- ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
- ใหม่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card
(รุ่น e:HEV RS) - ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ที่ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Key
- ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย(Wireless Charger)
ครั้งแรกในโลกของแอคคอร์ดกับรุ่น e:HEV RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น
ในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน
- โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น กับสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย
- ใหม่ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา เปิดมุมมองที่กว้างขวาง ยกระดับสุนทรียภาพในการเดินทาง
- ใหม่ ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
- ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ สีดำแบบสปอร์ต
- ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน เสริมความ Contrast และพรีเมียมยิ่งขึ้น
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำแบบสปอร์ต
- สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตหรูด้วยสีดำแบบแมตต์
- ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black
ขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายอย่างไร้ข้อจำกัด กับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทุกรุ่นย่อย
- ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลัง ด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ โดยระบบจะมอบสมดุลระหว่างสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง แรง ตอบสนองดั่งใจ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่เยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร
- ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด (Intelligent Multi-mode drive) ประกอบไปด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) นอกจากนี้ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration)
- นอกจากนี้ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ยังมาพร้อมสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ เพียงกดปุ่มที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ ได้แก่
- ใหม่ โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive cruise control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ
- โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
- โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
- โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
มั่นใจยิ่งขึ้นในทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยอื่น ๆ และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ผสานการทำงานของกล้องมุมกว้างด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
- ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ
- สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน และยังมีการพัฒนาแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งในย่านชุมชน เพื่อยืดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้น
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
- ถุงลม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และใหม่ ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และใหม่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง
- ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ ใหม่ รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
สู่ประสบการณ์เดินทางที่สมบูรณ์แบบเต็มขั้น กับครั้งแรกของหลากหลายเทคโนโลยี
เชื่อมต่ออันล้ำสมัย รองรับสมาร์ตไลฟ์สไตล์ ผสานผู้ใช้งานกับรถได้อย่างลงตัว
- ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ขอแนะนำ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่มี Google built-in พบกับแอปที่คุณชื่นชอบอย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายจาก Google Play ในรถยนต์ของคุณเพื่อประสบการณ์การขับขี่แบบมีผู้ช่วยที่ราบรื่นและปรับเปลี่ยนได้ในแบบของคุณ
- ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 5 นิ้ว (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งเป็นจอแบบ Full Graphic LCD ที่สามารถแสดงผลทั้งการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ข้อมูลการขับขี่ และข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถในรูปแบบของกราฟิกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลการทำงานของ Maps ได้เต็มหน้าจอ เมื่อใช้งาน Google built-in อีกด้วย ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย แม้จะมีการทำงานของระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ก็ไม่รบกวนการนำทางบนหน้าจอ
- ใหม่ ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) ช่วยให้ผู้ใช้รถไม่เพียงสามารถอัปเดตระบบ Infotainment แต่ยังสามารถอัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้ ผ่านทางระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว หรือผ่านทางแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน เพิ่มความสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ
เสริมความมั่นใจในการใช้งานยิ่งขึ้น โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ด้าน e:HEV (e:HEV Expert) จากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ
เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ในวันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2566 ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทางออฟฟิเชียลแอคเคานต์ “Honda Thailand” ในช่องทาง Facebook และ YouTube Channel ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777
หมายเหตุ
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
***ราคาประมาณการยังไม่รวมราคาสีพิเศษ (มุก)